เราขอแนะนำ ซอฟแวร์นี้นะคะ เพราะว่าฟรี ไม่ต้องเสียเงิน นั่นก็คือ osCommerce สำหรับสร้าง ร้านค้าออนไลน์ ต่อจากนี้เราจะมาทำความรู้จัก กับระบบร้านค้าออนไลน์ osCommerce กันคร่าวๆ กันก่อนนะค่ะ
osCommerce เปิดตัวครั้งแรก เมื่อประมาณเดือน มีนาคม พ.ศ.2543 โดย Mr.Harald Ponce de Leon ชาวเยอรมัน และได้รับการพัฒนา อย่างต่อเนื่อง จนถึงปัจจุบัน คือเวอร์ชั่น osCommerce 2.2 Mileston 2 ได้รับการสนับสนุนจาก นักพัฒนาทั่วโลก เพื่อให้ระบบ มีความสมบูรณ์ แบบมากที่สุด
osCommerce เป็นซอฟแวร์ระบบเปิด หรือโอเพนซอร์ส ที่ใช้ในการจัดการ บริหารร้านค้าออนไลน์ สามารถนำมา ดัดแปลงเพื่อ ให้ใช้งานได้กับ อีคอมเมิร์ซ ร้านค้าออนไลน์ ซึ่งรองรับ หลายภาษา รวมถึงภาษาไทยด้วยค่ะ
osCommerce ซอฟแวร์นี้ สามารถติดตั้งได้ บนระบบปฏิบัติการ Linux, Unix, Solaris, BSD, Max OS X และ Windows ค่ะ
osCommerce พัฒนาด้วยภาษา PHP ซึ่งเป็นภาษา ที่เรียกว่า server-side หรือ HTML embedded scripting language เป็นเครื่องมือสำคัญ ชนิดหนึ่งที่ ช่วยให้เราสามารถ สร้างเอกสารแบบ Dynamic HTML ได้อย่างมี ประสิทธิภาพ และสวยงาม มีลูกเล่นมากขึ้น
osCommerce ใช้ร่วมกับ ระบบฐานข้อมูล MySQL ซึ่งเป็นซีเอ็มเอส (CMS; Content Management System) เหมือนกับ PHP-Nuke แต่ PHP-Nuke เป็นเว็บสำเร็จรูป ที่มีลักษณะทั่วไป ไม่ได้เจาะจง หรือมุ่งเน้นไปที่ เรื่องอีคอมเมิร์ซ เพียงอย่างเดียว เหมือน osCommerce ที่มุ่งเน้นเฉพาะ เรื่องอีคอมเมิร์ซ เท่านั้น
osCommerce มีความสามารถทั่วไป เหมือนการใช้ Dreamweaver หรือ Frontpage หรือ Adobe สร้างเว็บ ร้านค้าออนไลน์ ซึ่งมีคุณสมบัติรองรับ ระบบตระกร้าสินค้า ระบบการชำระค่าสินค้า ระบบการส่งสินค้า ระบบการบริหาร จัดการร้านค้า ระบบการแนะนำสินค้า และบริการ เป็นต้น
osCommerce มีครบทุกอย่าง ที่จำเป็นสำหรับช่วยธุรกิจ ของเราให้ ประสบผลสำเร็จ โดยไม่จำเป็น ต้องมาเสียเวลา ในการเขียนโค๊ด หรือออกแบบเว็บไซต์
osCommerce ติดตั้งง่าย ไม่ยุ่งยาก เกิดความสามารถ ของเพื่อนหรอกค่ะ สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้หลายแห่ง อาทิ หนังสือ เว็บไซต์ต่างๆ และก็ไม่ต้องกลัวนะค่ะว่า ขั้นตอนในการติดตั้งจะยุ่งยาก
ปัจจุบันนี้ เทคโนโลยีการสื่อสาร มีการแข่งขันกันสูงมาก ผู้ที่เริ่มต้นก่อน ย่อมมีโอกาสที่ดีกว่าเสมอแต่ไม่ได้หมายความว่า ถ้าวันนี้ เราพึ่งเริ่มต้น...นับหนึ่ง แล้วเราจะก้าวตามทัน คนอื่นๆ ที่เขาทำมานาน แล้ว ได้อย่างไร เป็นคำที่น่าสนใจ และ อยากที่จะรู้คำตอบ... ว่าเราควร จะทำอย่างไร ต่อไป
อีคอมเมิร์ซ (e-commerces) หรือว่า พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
เป็นเรื่องเกี่ยวกับ การทำการค้า ขาย ผ่านสื่อ อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ที่มีใช้กันในปัจจุบัน เช่น โทรศัพท์ โทรสาร หรือแฟล็กซ์ (Fax) รวมถึงคอมพิวเตอร์ และอื่นๆ อีกมากมาย เรามาดูตัวอย่าง ของการทำกิจกรรม ที่เราเรียกว่า พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ กันสักเล็กน้อย เพื่อให้ เกิดความ เข้าใจ.. เช่น การจองตั๋วชมภาพยนตร์ ผ่านทางโทรศัพท์มือถือ หรือผ่านเครื่อง คอมพิวเตอร์ของคุณ ไปยังเว็บไซต์ ที่เขาเปิด ให้บริการ โดยที่เรา ไม่จำเป็น ต้องเดินทาง ให้เสียเวลา ไปถึงโรงภาพยนตร์ หรือ การซื้อ ขายสินค้า ผ่านทางอินเตอร์เน็ต เป็นต้น
ปัจจุบันการทำอีคอมเมิร์ซ หรือ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ มีด้วยกัน 4 ประเภทใหญ่ๆ คือ
Business to Business หรือ B2B เป็นการค้าระหว่างธุรกิจ กับธุรกิจ หรือ เป็นการซื้อขายกัน ในปริมาณมากๆ ระหว่างผู้ผลิตสินค้าด้วยกันเอง เป็นต้น
Business to Consumer หรือ B2C คือการซื้อ ขายสินค้า และบริการ ระหว่าง เจ้าของธุรกิจ หรือร้านค้า กับผู้บริโภค หรือ ลูกค้าโดยตรง ยกตัวอย่าง เช่น เว็บไซต์ของเรานี่เอง ก็ถือว่า จัดอยู่ใน ธุรกิจ B2C มีการขายสินค้า โดยตรง ถึงลูกค้าที่เข้ามา ใช้บริการ มีปริมาณการซื้อขาย ในแต่ละครั้งไม่สูง เท่ากับ B2B
Business to Government หรือ B2G เป็นการ ทำการค้าระหว่างธุรกิจ กับ องค์กรของรัฐ เช่น การประมูลออนไลน์ เพื่อการจัดซื้อ จัดจ้าง การประกวดราคา เป็นต้น
Consumer to Consumer หรือ C2C เป็นการ ทำการค้าขายสินค้า ของบุคคลทั่วไป เช่น เรามาโทรศัพท์มือถือ ที่เราไม่ได้ใช้แล้วอยู่ 1 เครื่อง แต่อยู่ในสภาพที่ดี มีอุปกรณ์ครบชุด คงจะเป็นไปไม่ได้ ที่เราจะไปเปิดร้าน เพื่อขายโทรศัพท์มือถือ เครื่องนี้ ดังนั้นจึงเกิด ธุรกิจเว็บไซต์ เกี่ยวกับ การประกาศขายสินค้า ผ่านเว็บไซต์ โดยโพสต์ ข้อความตาม กระดานข่าว หรือ (web board) เป็นต้น
ประโยชน์ของการทำอีคอมเมิร์ซ หรือการเปิดร้านค้าออนไลน์ คือ
· สำคัญที่สุดคือ ไม่ต้องเสีย ค่าเช่าร้าน ราคาแพงๆ พูดง่ายๆ ให้เข้าใจ ก็คือใช้ต้นทุนต่ำ หรือใช้เงินนิดเดียว เมื่อเทียบกับ การเปิดร้าน ตามที่ต่างๆ เช่น ศูนย์การค้า ในย่านธุรกิจสำคัญๆ หรือตามแหล่งท่องเที่ยว เป็นต้น
· เปิดร้านค้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ต้องไปนั่งขายเอง ฝนตก น้ำท่วม ก็ไม่เป็นปัญหา ปล่อยให้ระบบที่เราเลือกใช้ขายสินค้าแทนเรานั่นเอง
· ไม่ต้องจ้างพนักงานขาย ให้สิ้นเปลืองมากมาย
· สามารถเปิดร้านค้าของเรา ไปทั่วโลก ทุกหนทุกแห่ง ที่มีอินเตอร์เน็ตได้ค่ะ
· ไม่ต้องเสียค่า โฆษณา เผลอๆ ไปหาโฆษณา มาลงในหน้าเว็บไซต์ ได้เงินเพิ่มอีกต่างหาก
· สามารถตกแต่ง หน้าร้านของเราได้ตามชอบใจ รวดเร็ว เป็นต้น
เพื่อนๆ ที่สนใจสามารถหาวิธีการและเว็บไซต์เพื่อดาว์นโหลดได้ที่
1. ศึกษาวิธีการติดตั้ง osCommerce จากเว็บนี้นะครับ ที่มา :
1.1 http://www.thai-fusion.net/articles.php?article_id=3
1.2 http://www.siamwebhost.com/tutorials/oscommerce.html
2. วิธีติดตั้ง osCommerce บน localhost
2.1 http://www.prasarnsak.com/drupal/node/11
3. ส่วนการปรับแต่งร้านค้าออนไลน์ osCommerce
3.1 http://www.thai-fusion.net/articles.php?article_id=4
4. Templates สำหรับ osCommerce
4.1 http://fws.cc/thaiseo/index.php?action=printpage;topic=25.0
4.2 http://www.thaiseoboard.com/index.php?topic=30809.0
4.3 http://oscommerce-free.blogspot.com/
5. การติดตั้งภาษาไทยใน OS Commerce แบบ utf-8
5.1 http://bc46.com/forum/index.php?topic=462.0
และนี่ก็คือ ขั้นตอนการติดตั้ง (Installation)
· ทำการติดตั้ง (Install) ระบบร้านค้า โดยเข้าไปที่ http://www.yourdomain.com/install/
ที่หน้าแรกให้คลิก Install เพื่อเริ่มทำการติดตั้งระบบ
ที่หน้าที่สองให้คลิก "ดำเนินการต่อ"
ในหน้าที่สาม ตรงช่องชื่อเซิร์ฟเวอร์ฐานข้อมูล (Database Host Name) ให้ใส่เป็น localhost
กรอกชื่อผู้ใช้ (DB_Username) ฐานข้อมูล (DB_Name) และรหัสผ่าน (DB_Password)
ที่หน้าที่ห้าให้คลิก "ดำเนินการต่อ"
กระบบติดตั้งเสร็จสมบูรณ์ท่านจะพบกับข้อความ "การตั้งค่าสำเร็จ!" หากท่านต้องการแก้ไขเว็บไซต์ให้คลิกที่
"เครื่องมือผู้ดูแลระบบ"
ก่อนเข้าสู่หน้า "เครื่องมือผู้ดูแลระบบ" จะพบกับหน้า Login ดังภาพข้างต้น ให้ทำการ Login โดยใช้
อีเมล์demo@cmssociety.com และรหัสผ่าน 12345 หลังจาก Login เรียบร้อยแล้ว จะพบกับหน้าจอดังต่อไปนี้
(อย่าลืมเปลี่ยอีเมล์ และ รหัสผ่าน เพื่อความปลอดภัย)

ทดสอบการใช้งานโดยเข้าไปที่ http://www.yourdomain.com ท่านจะพบกับหน้าร้านตัวอย่างที่ระบบสร้างไว้ให้
หากต้องการบริหารและจัดการร้านค้าของท่าน ให้เข้าไปที่ http://www.yourdomain.com/controlshop/
สรุป ถือว่าโปรแกรมนี้เป็นโปรแกรมหรือระบบที่น่าสนใจมากเลยที่เดียว เหมาะสำหรับคนที่ต้องการความรวดเร็วและความสะดวกสบายในการดำเนินธุรกิจก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ช่วยให้เพื่อนๆตัดสินใจว่าจะเลือกใช้ระบบนี้หรือไม่
ขอขอบคุณแหล่งข้อมูลอ้างอิงดังนี้ค่ะ